June 22, 2023 12:12

Bokor hill Station ที่เที่ยวนี้มีเรื่องเล่า @กัมปอต กัมพูชา


สถานีเขาโบกอร์ (Bokor hill station)  ไฮไลต์ของที่แห่งนี้ก็คงไม่พ้น Le Bokor Palace ถ้าหากให้สถานที่แห่งนี้สามารถเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เราฟัง … พวกเขาคงจะกรีดร้องถึงเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งความยิ่งใหญ่ หรูหร่า ความเสื่อมโทรม ความตาย ความพินาศ และการฟื้นคืนจากความตายอีกครั้ง



สวรรค์บนยอดเขาแห่งความหรูหราและการต้อนรับที่ยอดเยี่ยม การเดินทางของที่นี่เป็นการเดินทางที่ยากลำบาก หลังจากพลิกผันผ่านสงครามและความไม่แน่นอนมานานหลายทศวรรษ ตอนนี้ที่นี่กลายเป็นอัญมณีบนเส้นขอบฟ้าของกัมพูชา



การเปิดตัวที่เลิศ..หรู

เรื่องราวมันเริ่มต้นเมื่อหนึ่งศตวรรษที่แล้วในปี 1919 บนยอดเขาโบกอร์ที่ปกคลุมด้วยเมฆหมอกของประเทศกัมพูชา เพื่อสร้างสถานที่ตากอากาศให้กับชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในอาณานิคมฝรั่งเศสเพื่อหนีความร้อนระอุของอากาศประเทศกัมพูชา



จุดเด่นคือโรงแรม Bokor Palace ซึ่งเปิดตัวในวันวาเลนไทน์ในปี 1925 อาคารสไตล์อาร์ตเดโค 3 ชั้นอันโอ่อ่านี้ สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบปัลลาเดียน ประดับประดาด้วยสไตล์อิตาลี ภายในห้องต้อนรับแขกด้วยเตาผิงขนาดใหญ่ เลานจ์หรูหราและห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ยังมีห้องพักขนาดใหญ่ 18 ห้อง พร้อมห้องน้ำและเครื่องทำความร้อนไฟฟ้า เมื่อออกไปสู่เฉลียงขนาดใหญ่จะพบกับสวนที่ปลูกไม้เลื้อยที่มีทิวทัศน์กว้างไกลของ 'โอปอลโคสต์'



เมื่อแขกที่ได้รับเลือกได้นั่งลงเพื่อรับประทานอาหาร 6 คอร์สที่หรูหรา ซึ่งรวมถึงคาสปาโช่ กุ้งสไตล์อเมริกัน ฟัวกราส์รสเข้มข้น และสตรอเบอร์รี่เสิร์ฟพร้อมครีมชานทิลลี แขกคนสุดท้ายไม่ได้ออกไปจนกว่าจะถึงตี 5 และนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น! ในอีก 20 ปีข้างหน้า ชนชั้นสูงในท้องถิ่น ชาวต่างชาติ และแม้แต่เชื้อพระวงศ์ต้องทนขับรถขรุขระไปยังสถานที่พักผ่อนอันหรูหราตามเส้นทางบนภูเขาที่สร้างโดยนักโทษ


ความมืดเข้าปกคลุม

แต่แล้วความสนุกสนานต้องจบลงในปี 1946 เมื่อสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่งอุบัติขึ้น โรงแรมถูกปิดและถูกใช้เป็นโรงพยาบาลทหารในช่วงเวลาสั้น ๆ และแน่นอนมันย่อมมีทั้งผู้ที่เสียชีวิต พิการ ถูกตัดแขนขาจึงไม่แปลกหากลานกว้างหน้าโรงแรมอาจถูกใช้เป็นสุสานจำเป็น และในที่สุด สถานที่แห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้าง โรงแรมถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูแล 




ฟื้นจากความตาย

ในช่วงต้นทศวรรษ 1960 สถานีบนเนินเขาได้เปิดให้บริการอีกครั้ง โรงแรมได้รับการตกแต่งใหม่และกลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์และความยิ่งใหญ่ครั้งก่อน ครั้งนี้มาพร้อมกับคาสิโนที่หรูหรา ชาวเขมรที่ร่ำรวยแห่กันไปที่โรงแรมเพื่อปาร์ตี้และเล่นการพนัน

แต่กลับมีเรื่องเล่าและข่าวลือเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่น่าสยดสยองของการฆ่าตัวตายที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ว่ากันว่ามีผู้เล่นเคราะห์ร้ายหลายคนกระโดดลงมาจากหน้าผาอันน่าทึ่งด้านหลังโรงแรมหลังจากสูญเสียเงินไปกับการพนัน



กลายเป็นเมืองผี

อย่างไรก็ตาม หลังจากการโค่นล้มของสีหนุในปี 1972 สถานที่แห่งนี้ก็ถูกปิดลงอีกครั้ง เมื่อเขมรแดงเข้าควบคุมภูเขาโบกอร์ที่ซึ่งพวกเขาตั้งมั่นเป็นเวลาหลายเดือน และในช่วงต้นทศวรรษ 1990 เขาโบกอร์ยังคงเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นสุดท้ายของเขมรแดง

หลังสงคราม สถาที่บนภูเขาแห่งนี้ทั้งหมดถูกลืม โรงแรม โบสถ์คาทอลิก และวัดโบสถ์เจดีย์ต่างๆถูกทิ้งร้าง

ภาพโรงแรมร้างอันน่ากลัว รวมทั้งเรื่องเล่าของสิ่งลี้ลับ ผ่านเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ผู้อยากรู้อยากเห็นมากมาย หลงใหลไปกับกำแพงที่พังทลายซึ่งปกคลุมด้วยตะไคร่สีแดง และทางเดินร้างที่เรียงรายไปด้วยกราฟฟิตี้ สถานที่บนเนินเขากลายเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวกัมพูชาว่าเป็น 'เมืองผี' ซึ่งเป็นสถานที่หลอกหลอนวิญญาณของทหารที่เสียชีวิตที่นั่น



ในช่วงเวลานี้ รีสอร์ทบนภูเขาได้โลเคชั่นถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง R-Point เข้าฉายในปี 2004 https://youtu.be/mh4Mz5oukJE



ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง …

และในปี 2018 หลังจากหลับใหลมานานหลายทศวรรษ โรงแรมเก่าแก่ก็กลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง ซึ่งหรูหราและยิ่งใหญ่กว่าที่เคย โดยได้รับการบูรณะด้วยความรักโดย Sokha Hotels & Resorts ความสง่างามของอดีตอันเก่าแก่ของโรงแรมได้รับการอนุรักษ์ไว้ด้วยองค์ประกอบดั้งเดิมมากมาย บรรยากาศแบบโคโลเนียลที่ยิ่งใหญ่ และแน่นอนว่าทิวทัศน์ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเหนือแนวชายฝั่ง



ผู้เข้าพักจะได้รับการต้อนรับสู่ห้องพักหรูหราพร้อมเฟอร์นิเจอร์ทำมือและเครื่องประดับอิตาลีชั้นดี ร้านอาหาร Thansur ทำให้นึกถึงยุคอาณานิคมของฝรั่งเศสด้วยเมนูที่ย้อนไปถึงยุคแรก ๆ ของโรงแรมแม้ว่าจะมีความทันสมัยก็ตาม



และเหล่าวิญญาณแห่งสงครามที่ได้พักผ่อนมานาน ก็จะกลับมาเริ่งร่า เต้นรำ หัวเราะ และมีความสุขไปพร้อมกับแขกที่เข้าพักในโรงแรมนี้อีกครั้ง



Booking Form

* จะมีการตรวจอายุเด็กถ้าหากอายุเกิน อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เงื่อนไขในการใช้บริการ